บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
Contents
บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
บ้านเดี่ยว 2 ชั้น บ้านโมเดิร์น โฟกัสสายตากับหลังคาเฉียงChia House เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นครึ่งบน ‘บังกะโลล็อต’ ใน Cyberjaya ประเทศมาเลเซีย ในบ้านเราบังกะโลเป็นศัพท์ที่ค่อนข้างเก่าสำหรับใช้เรียกที่พักตากอากาศ แต่ในมาเลเซียคำว่า ‘บังกะโลล็อต’ หมายถึงแปลงที่อยู่อาศัยในเขตชานเมือง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะอยู่ระหว่าง 700 ถึง 1,000 ตารางเมตร โดยที่พื้นที่ที่สร้างนั้นจะต้องมีระยะร่นและข้อปฏิบัติตามกฎหมายรอบปริมณฑล สำหรับที่ดินแถบนี้เป็นแปลงใหญ่เรียงสลับกันไปมา แทบไม่มีทิวทัศน์ให้เห็น ยกเว้นบ้านของคนอื่นและสวนรอบบ้าน จึงต้องการความเป็นส่วนตัว ในขณะที่ผู้อยู่อาศัยก็ต้องการความรู้สึกเปิดกว้าง ความขัดแย้งนี้จะลงตัวได้อย่างไรต้องไปชมกันครับ
บ้านโมเดิร์น 2 ชั้น
บ้านนี้อยู่ที่เซปัง รัฐสลังงอร์ ประเทศมาเลเซีย เจ้าของบ้านมีโจทย์ว่า ต้องการพื้นที่ใช้สอยแบบเปิดโล่งที่ดูมีชีวิตชีวา มาพร้อมแสงธรรมชาติที่ส่องเข้ามาอย่างเต็มที่ ให้บรรยากาศสำหรับการอยู่อาศัยแบบครอบครัวร่วมสมัย แนวคิดของสถาปนิกจึงตั้งใจทำแผนผังให้โปร่งมีลานภายใน เพื่อให้บ้านได้รับแสงแดดมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ผ่านแผงกระจก ที่มีการกำหนดตำแหน่งอย่างระมัดระวัง
โดยพยายามไม่ให้กระทบต่อความเป็นส่วนตัว จากภายนอกจะเห็นการประสานของแผงกระจกเต็มความสูงกับงานอิฐเปลือย ในขณะที่หลังคาลาดเอียงขนาดใหญ่ออกแบบให้ตอบสนองต่อสภาพอากาศแบบเขตร้อนชื้น ให้น้ำฝนไหลลงไปยังถังเก็บน้ำที่อยู่ด้านหลังบ้านอย่างรวดเร็วที่สุด
อาคารถูกแบ่งเป็น 2 หลังหลัก ๆ คือส่วนที่สองสองชั้นมีที่ว่างโล่งๆ ด้านล่างเป็นใต้ถุนกับอาคารสามชั้น ซึ่งจะมีคอร์ดยาร์ดขนาดเล็กแทรกเข้าไปในแปลน ลานนี้นอกจากแบ่งปริมาตรบ้านออกเป็นสองส่วน ยังเป็นกลยุทธ์ที่จะให้อาคารสองชั้นที่อยู่ติดถนนด้านหน้า ซ่อนพื้นที่หลักของบ้านเมื่อมองจากถนน ให้ความเป็นส่วนตัวแก่ผู้อยู่อาศัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนที่เป็นบ้านสามชั้นเป็นโครงคอนกรีตเสริมเหล็ก แต่ส่วนที่เหลือเป็นโครงเหล็ก I Beam เป็นหลัก ในขั้นต้นตัวคานและเสาเหล็กจะออกแบบให้ขนาดเท่ากัน เพื่อให้โครงสร้างมีความสม่ำเสมอและเรียบร้อยทั่วทั้งบ้าน อย่างไรก็ตามเมื่อคำนวณดูแล้วจะทำให้เหล็กสิ้นเปลือง และเป็นวัสดุที่ใช้คาร์บอนฟุตพริ้นท์สูงในการผลิต จึงเลือกใช้ขนาดที่สอดคล้องกับการรับน้ำหนักและภาษาสถาปัตยกรรม รวมถึงจังหวะของบ้านเท่านั้น
ภายใน Chia House เป็นแบบเปิดโล่ง open plan อาบด้วยแสงธรรมชาติ ตอบความคาดหวังที่จะทำให้บ้านกว้าง สว่าง และยืดหยุ่นมากที่สุด ชั้นล่างประกอบด้วยห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหารและห้องครัว ที่ต่อเนื่องในระนาบแนวนอนเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง ภายใต้เพดานไม้ที่ลาดเอียงซึ่งเปิดโล่งเชื่อมต่อขึ้นไปในแนวตั้งแบบ Double Height ที่เห็นที่ชั้นล่างขยายไปถึงชั้นบน
รับกับแผงกระจกที่วางอยู่ในจังหวะที่เข้ากับข้อกำหนดด้านแสงธรรมชาติของแต่ละพื้นที่ โดยมีทั้งกระจกแบบติดตายและบานเกล็ดกระจกสลับกันบันไดที่เชื่อมระหว่างทั้งสามชั้นของบ้าน ถูกวางไว้อย่างเด่นชัดข้างลานบ้าน เป็นบันไดโครงสร้างเหล็กสีดำกรุทับด้วยไม้สีน้ำตาล ออกแบบรูปทรงแบบบันไดหักกลับเพื่อสร้างเส้นซิกแซกเมื่อมองเข้ามาจากด้านนอก ข้าง ๆ บันไดเป็นผนังกระจกสูงเต็มพื้นที่สองชั้น จึงรับแสงได้เต็มพิกัด พร้อมให้มุมมองอันสวยงามภายนอกได้ตลอดเวลาทั้งช่วงที่เดินขึ้นและเดินลงบันไดจะเป็นเสมือนกระดูกสันหลังของบ้าน
นำไปสู่พื้นที่ใช้สอยที่เปิดโล่งในแต่ละชั้นก่อนจะถึงห้องนอน บ้านนี้มีห้องนอน 3 ห้องที่ชั้นหนึ่งและห้องชุดที่มีลักษณะเหมือนอพาร์ตเมนต์ที่ชั้นบนสุด นอกจากนี้ยังมีห้องนั่งเล่นและห้องเตรียมอาหารที่ชั้นบน ซึ่งเชื่อมต่อโดยตรงกับห้องนอนด้วย พื้นที่ใช้สอยเหล่านี้มีลักษณะเหมือนห้องโถงโล่งๆ ที่มีอากาศถ่ายเท ความสูงและโปร่งเอื้อให้มวลอากาศร้อนจากชั้นล่างลอยตัวขึ้นสู่ที่สูงได้ดี
และปล่อยระบายออกไปจากตัวบ้านผ่านช่องเปิดต่างๆ ในระดับที่สูงขึ้นสีของวัสดุของบ้านทั้งหลังคลุมโทนขาว น้ำตาลเข้มจากงานไม้เนื้อแข็งในพื้นถิ่น และอิฐโชว์แนวสีแดงอมส้ม ให้ความรู้สึกอบอุ่นแบบร่วมสมัย ในขณะเดียวกันก็มีเส้นสายสีดำของเหล็กและบานเกล็ดติดตั้งเรียงยาวเป็นแนว เพิ่มความรู้สึกคมชัดแบบโมเดิร์น บ้านจึงไม่เชยมากบ้านไม้แท้ ให้ความรู้สึกอบอุ่นก็จริง
แต่ก็มีบางอารมณ์ที่ทำให้ภาพรวมของบ้านดูทึมทึบ คลาสสิค ไม่ทันสมัย ซึ่งลักษณะการติดตั้ง สี และดีไซน์ของบ้านก็มีส่วนที่จะทำให้บ้านดูเชยหรือไม่ ตัวอย่างเช่น บ้านสไตล์มินิมอลจะเหมาะกับการใช้ไม้ที่มีเนื้อสีขาว หรือสีอ่อน ๆ ตัดเป็นเส้นเล็ก ๆ ตีเรียงกันไปแบบเว้นช่องว่างเล็กน้อย ทำให้รู้สึกถึงความสว่างและโมเดิร์น แต่ถ้าเนื้อไม้ทำสีเข้ม จะยิ่งทำให้ลุคของบ้านดูมีอายุร่วมสมัยมากขึ้น รวมถึงวิธีการตีไม้ฝาแบบซ้อนเกล็ดแผ่นใหญ่ ๆ ก็ทำให้บ้านดูตกยุคได้เช่นกัน
บ้านเดี่ยว คืออะไร
บ้านเดี่ยว เป็น “บ้านในดวงใจ” ของผู้ซื้อบ้านแทบจะทุกคน เพราะบ้านเดี่ยวให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยและมีบริเวณที่ทำให้รู้สึกโล่ง โปร่ง นอกจากนี้แล้ว สำหรับบางคนบ้านเดี่ยวถือเป็นเครื่องแสดงถึงความเป็นผู้มีฐานะในระดับหนึ่ง (ขึ้นอยู่กับขนาด ความหรูหรา และราคาของบ้าน) อีกด้วยบ้านเดี่ยวราคาถูกมักจะเป็นบ้านชั้นเดียว แต่โดยทั่วไปแล้วบ้านเดี่ยวจะเป็นบ้าน 2 ชั้น อนึ่ง บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ก็มีให้เห็นบ้างในบริเวณที่ที่ดินมีจำกัดหรือมีราคาแพงมากการจัดสรรบ้านเดี่ยวนั้น กฎหมายกำหนดให้ต้องมีขนาดที่ดินไม่ต่ำกว่า 50 ตารางวา โดยที่ดินต้องมีหน้ากว้างติดถนนไม่ต่ำกว่า 10 เมตร ลึก 20 เมตร
ลักษณะของบ้านเดี่ยว คืออะไร
– บ้านหลังเดียวตั้งอยู่บนที่ดินขนาดตั้งแต่ 50 ตารางวาขึ้นไป
– บ้านแต่ละหลังจะเว้นที่ว่างรอบตัวบ้านอย่างน้อย 2 เมตร และต้องมีระยะห่างจากกึ่งกลางถนนอย่างน้อย 3 เมตร
– บ้านเดี่ยวมีความสูงไม่เกิน 3 ชั้น
ข้อดีของบ้านเดี่ยว คืออะไร
– มีความเป็นส่วนตัวสูง เนื่องจากมีระยะเว้นห่างจากขอบที่ดิน
– มีขนาดที่ดินใหญ่กว่าที่อยู่อาศัยประเภทอื่น ๆ
– มีพื้นที่จอดรถหลายคัน
– มีพื้นที่ใช้สอยมาก
ข้อด้อยของบ้านเดี่ยว คืออะไร
– มีราคาสูงกว่าที่อยู่อาศัยประเภทอื่น ๆ
– ดูแลรักษายากกว่า เนื่องจากมีพื้นที่มากกว่า
– ค่าส่วนกลางแพงกว่า เนื่องจากมีพื้นที่มากกว่า
บ้านสไตล์โมเดิร์นคืออะไร ? มีทั้งหมดกี่แบบ ?
บ้านสไตล์โมเดิร์น ถือเป็นสไตล์การแต่งบ้านที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากเป็นสไตล์ที่สวยที่เรียบง่าย และแฝงไปด้วยความทันสมัย เข้ากันกับเฟอร์นิเจอร์แทบทุกรูปแบบ เพื่อเป็นการทำความรู้จักบ้านแบบโมเดิร์นให้ดียิ่งขึ้น เรามีข้อมูลเบื้องเกี่ยวกับบ้านสไตล์นี้มาฝาก แล้วคุณจะได้รู้ว่า…บ้านสไตล์โมเดิร์น มีดีมากกว่าความสวยงาม
ที่มาของบ้านสไตล์โมเดิร์น
บ้านสไตล์โมเดิร์นเป็นการก่อสร้างที่ได้รับอิทธิพลมาจากช่วงยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมในศตวรรษที่ 18 โดยในช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ผู้คนให้ความสำคัญกับการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่า โดยจะลดการใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ไม่มีความจำเป็นสำหรับการก่อสร้าง และเพื่อเป็นการลดความฟุ่มเฟือยจึงได้มีการนำรูปทรงของเรขาคณิตมาเป็นแบบของโครงสร้าง
โดยการตกแต่งสไตล์โมเดิร์นยังเน้นที่ความเรียบง่าย ไม่นิยมการตกแต่งที่มากเกินความพอดี โดยให้ความสำคัญกับการเลือกใช้พื้นผิวที่มีความเป็นธรรมชาติ อีกทั้งแต่ละพื้นที่ต้องมีประโยชน์ในการใช้สอย ด้วยเหตุนี้คำว่า Modern แปลว่า สิ่งใหม่ จึงถูกนำมานิยามการตกแต่งสไตล์นี้เพื่อสื่อถึงความทันสมัย
บ้านสไตล์โมเดิร์น(Modern Style)
Modern ในภาษาอังกฤษ แปลว่า ใหม่หรือทันสมัย จึงหมายถึง การออกแบบในรูปแบบใหม่ๆ สำหรับยุคนั้น หลักการของความสวยงามตามรูปแบบโมเดิร์น คือ รูปทรงที่สามารถตอบสนองประโยชน์ใช้สอยได้สูงสุด บ้านโมเดิร์นมี ลักษณะเด่นในการใช้รูปทรงเรขาคณิต เช่น สี่เหลี่ยมหรือเส้นโค้งที่เกิดจากส่วนของวงกลม สำหรับแนวคิดหลักของการออกแบบโมเดิร์นเป็นการเลือกใช้รูปทรง โครงสร้างและวัสดุที่สามารถตอบสนองการใช้งานได้ดี หรืออีกนัยหนึ่งคือรูปทรงของอาคารถูกกำหนดจากลักษณะการใช้งาน
ไม่มีการประดับตกแต่งส่วนเกิน เคารพในธรรมชาติของวัสดุและโครงสร้าง เช่น การโชว์เสา คาน หรือส่วนของโครงสร้างอาคารอย่างไม่มีปิดปัง ไม่ว่าจะเป็น เหล็ก คอนกรีต กระจก หรือไม้ โดยถือว่าเป็นความงามชนิดหนึ่ง หลักการสำคัญของการออกแบบบ้านโมเดิร์นอีกประการหนึ่ง คือ ความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย
ไม่มีปัญหาตามมาภายหลัง เช่น การออกแบบบ้านไม่มีชายคายื่นจากตัวบ้านโดยเข้าใจผิดว่าเป็นลักษณะของบ้านรูป แบบโมเดิร์นแต่มีปัญหาน้ำฝนสาดหรือรั่วเข้ามาทางประตูและหน้าต่าง ดังนั้นหลักของการออกแบบบ้านโมเดิร์น คือ การเคารพในรูปร่างธรรมชาติของวัสดุ ไม่มีการตกแต่งปิดปังให้สิ้นเปลืองและจะต้องอยู่อาศัยอย่างสะดวกสบาย
เป็นรูปแบบของบ้านอีกรูปแบบหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมในการก่อสร้างในปัจจุบัน เนื่องจากวัสดุก่อสร้างในอดีตอย่างไม้ที่หาได้มากมายนั้นกลับเริ่มหาได้ยากและมีราคาสูงในปัจจุบัน บ้านโมเดิร์นจึงเป็นแบบบ้านที่เน้นการนำเอาวัสดุในอุตสาหกรรมสมัยใหม่ มาใช้เป็นวัสดุหลักในการก่อสร้าง
โดยเฉพาะในส่วนของการใช้เหล็กและกระจกเป็นจุดเด่นของบ้าน นอกจากนั้นลักษณะเด่นคือความหรูหราในความเรียบง่าย กล่าวคือเรียบง่ายในรูปทรงของบ้านที่เป็นรูปแบบทรงเลขาคณิตไม่ซับซ้อน ส่งผลทำให้การก่อสร้างส่วนโครงสร้างทำได้ไม่ยาก โดยเฉพาะส่วนหลังคา ที่มัดทำในรูปแบบทรงแหงน ซึ่งจะช่วยประหยัดงบประมาณได้มากกว่า หลังคาทรงอื่นๆได้มากถึง 40% เนื่องจากโดยมากจะใช้วัสดุหลังคาแผ่นเหล็กหรือ Metal sheet มาใช้จึงมุงได้ง่ายและประหยัดเหล็กโครงสร้างได้อย่างมาก
โดยปกติการออกแบบลักษณะภายในของบ้านสไตล์โมเดิร์น จะเน้นความโปร่งโล่ง ออกแบบเป็นพื้นที่โล่ง ไม่นิยมการก่อผนังกั้นมากเหมือนบ้านรูปทรงอื่น รวมถึงการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ที่เรียบง่ายและไม่เยอะมากเกินไป ความประหยัดของการสร้างบ้านแบบโมเดิร์นนอกจากจะประหยัดในส่วนหลังคาแล้ว ยังอาจจะรวมถึงการสร้างผนังแบบปูนเปลือยที่ไม่จำเป็นต้องทาสี หรือพื้นปนเปลือย
ที่ไม่จำเป็นต้องปูกระเบื้อง ทำให้ประหยัดงบประมาณอย่างมาก หรือแม้กระทั่งส่วนเพดานซึ่งอาจจะไม่จำเป็นต้องทำฝ้าเพดานเหมือนบ้านรูปทรงปกติ แต่อาศัยการเดินท่อลอยบนพื้นสำเร็จรูปซึ่งมักพบเห็นได้ทั่วไป เช่นร้านกาแฟ หรือร้านที่ออกแบบในรูปทรงสมัยใหม่ต่างๆ
ถึงแม้บ้านสไตล์โมเดิร์นจะได้รับอิทธิพลมาจากตะวันตกซึ่ง อยู่ในเขตเมืองหนาว แต่เมื่อต้องนำมาสร้างในประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศเขตเมืองร้อนชื้นนั้น ทางทีมงาน Moderate จึงมีการออกแบบประยุกต์ให้มีความเหมาะสมกับสภาพอากาศในบ้านเรามากขึ้นเช่น การออกแบบให้มีหลังคายกมุมสูงกว่าปกติเพื่อป้องกันความร้อนที่จะแผ่ลงมายังตัวบ้าน การออกแบบปีกกันน้ำฝน(สีส้ม)
ช่วยลดการสาดของน้ำฝนที่อาจส่งผลต่อการรั่วซึมในส่วนของขอบหน้าต่าง หรือแม้กระทั่งการออกแบบให้มีส่วนระเบียงนอกบ้านมากกว่าบ้านโมเดิร์นปกติ เพื่อใช้พักผ่อนและทำกิจกรรมต่างๆนอกตัวบ้านได้เป็นอย่างดี